สัมผัสมุมมองใหม่ในการเที่ยวกระบี่ สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของชายฝั่งทะเลอันดามัน @เกาะหม้อ ตำบลปกาสัย แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อินกับวิถีประมงพื้นบ้าน เกาะหม้อ ชื่อนี้ถ้าเอ๋ยถึงชาวกระบี่ต้องนึกถึงปากคลองทะเลปกาสัย เป็นหาดทรายปนขี้แลน มีความยาวตามป่าชายแลน เมื่อน้ำลงจะมีสันดอนหาดผุดขึ้นตรงกลางอ่าว พื้นที่แห่งนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก มีคลองสาขาน้อยใหญ่หลายสายมาบรรจบกันที่ปากอ่าวเกาะหม้อ เช่น คลองเพลา คลองท่าเรือ คลองด้วน คลองนนท์ คลองปกาสัย มีต้นน้ำมาจากเทือกเขาพนมเบ็ญจา มีป่าชายเลนที่สมบูรณ์รายล้อมไปด้วยป่าโกงกางตามธรรมชาติน้อยใหญ่
วันนี้ (23 มิถุนายน 2560)ทางองค์การบริหารส่วนตำบลปกาสัย นำสื่อมวลชน นั่งเรือเดินทางไปเก็บหอยหวานหรือหอยตลับ ที่บริเวณหาดเกาะหม้อ ม.4 ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เมื่อไปถึงเราเจอชาวบ้านในพื้นที่นั่งหาหอยหวานกันตลอดแนวชายหาด โดยหอยหวานเป็นหอยสองฝาลักษณะคล้ายหอยวิ่ง แต่มีขนาดใหญ่กว่า2-3 เท่า โดยชาวบ้านจะใช้มือคลำหาหอยที่ฝังตัวในโคลนลึกประมาณ 1 นิ้ว บางคนเดินย่ำเท้า โยกตัวไปมาบนหาดทรายสีน้ำตาลแดง ๆ ก้มๆ เงยๆ หยิบจับอะไรสักอย่างจากใต้น้ำขึ้นมา ซึ่งก็คือหอยหวานนั้นเอง บางคนก็ใช้คราดมือลากขีดไปตามหาด บรรยากาศเป็นไปอย่างคักคัก ได้คนละ 2-3 กก. หากนำไปขายในราคา กก.ละ 70 -100 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด สร้างรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 300 บาท โดยใช้เวลาเพียง 3-4 ชั่วโมง แม้ว่ารายได้ไม่มาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งหอยหวานที่มีมากที่สุดในจังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะช่วงข้างขึ้นหรือข้างแรม จะไปเก็บหอยหวานได้เดือนละ 8 วันเท่านั้น คือ ตั้งแต่ 14 ค่ำ จนถึง 2 ค่ำ น้ำทะเลจะลดลงจนเห็นหาดทรายยาวกว่า 500 เมตร ส่งผลทำให้ชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในตำบลปากาสัย รวมทั้งตำบลใกล้เคียงเดินทางมาหาหอยหวานกันไม่ขาดสาย
ด้านนางอาภร คงแก้ว ชาวบ้านทุ่งสาครตำบลปกาสัย กล่าวว่า หอยหวาน เป็นหอยที่มีรสชาติดี๊ดี เนื้อหวาน และมีขนาดใหญ่ สามารถเอาไปต้มกิน หรือผัดน้ำมันหอยก็อร่อย โดยราคาในปัจจุบัน กิโลกรัมละ 70 – 100 บาท
วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ยังพึงพาและอิงแอบอยู่ในธรรมชาติได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีพื้นที่เล็ก ๆ เพียงประมาณ 500 ไร่ ยังสามารถหล่อเลี้ยงผู้คนในเมืองใหญ่ได้ มีกุ้ง หอย ปู ปลา รับประทานกันอย่างไม่ขาดแคลน ในระยะหลังๆ มีนักท่องเที่ยวเริ่มสนใจมาลองจับหอยหวานที่เกาะหม้อมาขึ้น เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรเลย นอกจากมือและเท้าของตนเอง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะได้หอยหวานกลับไปปรุงอาหารรับประทาน
เกาะหม้อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวิถีชีวิตชุมชน ที่อยู่ใกล้เมือง หากสนใจและต้องการไปเที่ยวเกาะหม้อหรือไปเก็บหอยหวาน ให้ติดต่อผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลปกาสัย 075-656-372 โดยประสานงานติดต่อล่วงหน้า เนื่องจากต้องดูปฏิทินไทย วันที่น้ำทะเลลดลงต่ำสุด โดยช่วงเวลาที่น้ำลงต่ำสุดจะเป็นช่วงเย็น หลัง 15.00 น. ระหว่างทางจาก อบต.ปกาสัย ไปยังเกาะหม้อยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนให้ได้ชมกันอีกด้วย